เมื่อไม่นานมานี้ ผู้เขียนได้มีโอกาสรีไฟแนนซ์บ้านที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นทาวน์เฮ้าส์ จากธนาคารกรุงเทพ มาเป็นธนาคารออมสิน ก็เป็นไปด้วยดี จดถ่ายถอนจำนอง แล้วก็จดจำนองใหม่เป็นที่เรียบร้อย อยู่ ๆ ก็ได้รับจดหมายจาก บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน)
ทำนองว่า ผมได้หมดภาระหนี้กับธนาคารกรุงเทพแล้ว ผมจึงเป็นผู้รับประโยชน์จากกรรมธรรม์อัคคีภัยแต่เพียงผู้เดียว และได้ส่งหนังสือสลักหลังกรรมธรรม์ประกันอัคคีภัยมาด้วย อ่านดูจึงพอจับความได้ว่า เราทำประกันอัคคีภัยไว้ 27 ปี เบี้ยประกันเป็นเงินจำนวน 9,xxx บาท ซึ่งตอนซื้อบ้าน ก็จำไม่ได้ว่าเขาให้ทำประกันอัคคีภัยไว้กี่ปี แต่จำได้ว่า ตอนรีไฟแนนซ์กับธนาคารออมสิน ธนาคารให้ทำประกันอัคคีภัยอย่างน้อย 3 ปี เบี้ยประกันอยู่ที่ 2,xxx บาท จึงเป็นอันว่า ประกันอัคคีภัยที่บ้านหลังนี้มี 2 กรรมธรรม์ซ้อนกันอยู่
จึงคิดจะเวนคืนกรรมธรรม์ฉบับเก่า หาเบอร์ได้ ก็โทรหา บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) บอกเลขที่กรมธรรม์ แจ้งความประสงค์ว่าจะเวนคืน พร้อมด้วยเหตุผล พนักงานก็แนะนำดีมาก ว่าให้ถ่ายสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน แล้วเขียนข้อความลงไปว่า เป็นเป็นเจ้าของกรรมธรรม์เลขที่อะไร ต้องการยกเลิกกรรมธรรม์ พร้อมแจ้งเลขที่บัญชีธนาคารที่เป็นชื่อของเรา (เพื่อให้เขาโอนเงินคืน) แล้วแฟกซ์ไปให้เจ้าหน้าที่ เมื่อแฟกช์แล้ว ให้โทรไปเช็คด้วยว่าได้รับแฟกซ์หรือยัง หลังจากได้รับเอกสารแล้ว เจ้าหน้าที่เขาก็จะดำเนินการให้
ผู้เขียนได้แฟกซ์เอกสารไปให้เจ้าหน้าที่ ในวันที่ 14/07/2559 แล้วรอให้เขาดำเนินการให้ หลังจากนั้นไม่นานก็ได้รับเงินจากการเวนคืนกรรมธรรม์ประกันอัคคีภัยจำนวน 3,xxx บาท ในวันที่ 22/07/2559 ซึ่งในความคิดของผู้เขียนถือว่าได้รับคืนเร็วมากเลยทีเดียว ต่อมาไม่นานก็ได้รับจดหมายชี้แจงรายละเอียดว่า เราจ่ายเงินเขาไปเท่าไหร่ คุ้มครองมากี่ปี คิดเป็นเงินเท่าไหร่ แล้วคืนให้จำนวนเท่าไหร่
แม้ว่าเงินที่ได้คืน จะไม่ใช่จำนวนเงินที่เราทำประกันทั้หมด หารด้วยจำนวนปีที่เอาประกัน เหลือกี่ปีก็เป็นเงินคืน แต่ก็ถือว่าได้กลับคืนมาพอสมควร ดีกว่าปล่อยทื้งไปเฉย ๆ ใครที่ทำประกันต่าง ๆ ไว้ หากไม่ต้องการทำประกันต่อ ก็สามารถเวนคืน เพื่อขอรับเงินส่วนต่างที่จ่ายไปแล้วคืนมาได้