วิธีเลือกซื้อ Windows 10

          การเลือกซื้อโปรแกรมวินโดวส์ ที่มีลิขสิทธิ์มาใช้งาน เป็นสิ่งที่ดี แต่สิ่งที่ไม่ค่อยจะสู้ดีสำหรับผู้ที่คิดจะซื้อก็คือ ลิขสิทธิ์วินโดวส์ มีความยุ่งยากในการเลือกซื้อเหลือเกิน  วันนี้จึงจะขอนำเอาลิขสิทธิ์ของวินโดวส์ 10 มาแยกแยะให้ดูพอเป็นตัวอย่าง จะได้ตัดสินใจถูกว่าจะซื้อแบบใด เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานของเรา (อาจไม่ครอบคลุมรูปแบบลิขสิทธิ์ทั้งหมด แต่เน้นสำหรับผู้ใช้งานตามบ้านและสำนักงานขนาดเล็ก)

ชนิดของลิขสิทธิ์วินโดวส์ 10

Windows 10 OEM ชนิด Preload หรือ Preinstall จากโรงงาน

  • ติดตั้งมากับคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ จากโรงงานผู้ผลิต
  • ไม่มี Product Key ให้ แต่คีย์จะฝังอยู่ใน Bios ของคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น  ๆ
  • ไม่มีแผ่นโปรแกรมให้ ถ้าต้องการจะติดตั้งใหม่ ต้องใช้วิธีการ Factory Restore หรือใช้วิธีถดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้งวินโดวส์ 10 จากไมโครซอฟท์มาติดตั้งซ้ำในเครื่องเดิมได้เลย  โดยไม่ต้องใส่ Product Key  (อ่านตัวอย่างการติดตั้งวินโดวส์ซ้ำกับคอมพิวเตอร์ที่มีวินโดวส์แท้จากโรงงานได้ที่นี่) แต่บางยี่ห้อที่เป็น Business PC หรือ Workstation ที่ Preinstall เป็น Windows 10 Pro อาจจะมีแถม Recovery DVD มาให้ด้วย
  • ไม่สามารถย้ายเครื่องได้
  • ราคาถูกกว่า เมื่อเทียบกับคอมพิวเตอร์สเปคฯเดียกวัน แต่ต้องซื้อวินโดวส์เพิ่มเติมภายหลัง
  • ถ้าเมนบอร์ดคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น ๆ เสีย ลิขสิทธิ์การใช้โปรแกรมก็หายไปด้วย
  • คอมพิวเตอร์ที่เป็นเกรด Home PC มักจะเป็น Windows 10 Home ส่วนเกรด Business PC และ Workstation มักจะเป็น Windows 10 Pro
  • ซื้อได้แบบอิสระ ไม่ต้องลงทะเบียนผู้ซื้อกับไมโครซอฟท์

Windows 10 OEM ชนิดมีแผ่นให้ด้วย

  • ติดตั้งกับคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่
  • แม้ไมโครซอฟท์จะบอกว่าสำหรับติดตั้งกับคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ แต่ในความเป็นจริง เราจะซื้อมาติดตั้งกับเครื่องใหม่ หรือเครื่องเก่าก็ได้
  • ถ้าคิดเฉพาะค่าลิขสิทธิ์วินโดวส์ ราคาจะแพงกว่าแบบ Preinstall
  • สินค้าจะมีแผ่นดีวีดีวินโดวส์ พร้อมทั้ง Product Key มาให้ด้วย ต้องเก็บรักษาคีย์ไว้ให้ดี
  • ไม่สามารถย้ายเครื่องได้ เพราะวินโดวส์จะจำเมนบอร์ดของเครื่องที่ติดตั้งแล้ว Activate เป็นครั้งแรก 
  • แม้วินโดวส์จะจดจำเมนบอร์ดคอมพิวเตอร์ไว้ แต่ถ้าต้องติดตั้งวินโดวส์ใหม่จำเป็นที่จะต้องใช้ Product Key ด้วย
  • มีทั้งเวอร์ชั่น Home และ Pro
  • ซื้อได้แบบอิสระ ไม่ต้องลงทะเบียนผู้ซื้อกับไมโครซอฟท์

Windows 10 ชนิด  FPP

  • ติดตั้งได้ทั้งกับคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่และเครื่องเก่า
  • ราคาแพงกว่าลิขสิทธิ์วินโดวส์ประเภทอื่น ๆ
  • สินค้ามีแผ่น DVD หรือ USB พร้อมทั้ง Product Key ห้ามทำหาย
  • ย้ายเครื่องได้ตามต้องการ
  • มีทั้งเวอร์ชั่น Home และ Pro
  • ซื้อได้แบบอิสระ ไม่ต้องลงทะเบียนผู้ซื้อกับไมโครซอฟท์

Windows 10 ชนิด  Volume License

  • ติดตั้งได้ทั้งกับคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่และเครื่องเก่า
  • การสั่งซื้อครั้งแรกขั้นต่ำ 5 Licenses
  • ต้องลงทะเบียนผู้ซื้อกับไมโครซอฟท์ผ่านตัวแทนจำหน่าย แล้วไมโครซอฟท์จะส่งข้อมูลมาให้เพื่อเข้าไปลงทะเบียน ดาวน์โหลดโปรแกรม และเช็ค Product Key (ได้กระดาษแผ่นเดียว คล้าย ๆ กับตัวอย่างด้านล่าง)
  • สามารถ Downgrade ไปใช้วินโดวส์เวอร์ชั่นที่ต่ำกว่าได้
  • สมมติซื้อวินโดวส์ 10 มา 10 Licenses เราจะติดตั้ง Windows 7  5 เครื่อง, Windows 8.1  2 เครื่อง และ Windows 10  3 เครื่องก็ได้  แต่รวมแล้วต้องไม่เกิน 10 เครื่อง
  • ถ้าซื้อวินโดวส์ 10  เราจะได้ Product Key ของเวอร์ชั่นอื่นมาด้วย เช่น  Windows 7, 8.1
  • ถ้าติดตั้งวินโดวส์เวอร์ชั่นเดียวกันทุกเครื่อง ก็ใช้ Product Key เดียวกันทั้งหมด  ซึ่งต่างจาก Windows 10 OEM และ FPP ที่ต้องใช้ หนึ่ง Product Key ต่อ หนึ่งเครื่อง
  • แม้จะไม่มีข้อมูลว่าย้ายเครื่องได้ แต่ในความเป็นจริง ถ้าคอมพิวเตอร์เครื่องที่ใช้อยู่เสีย ก็สามารถใส่ Product Key กับคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ได้เลย เพียงแต่ต้องไม่เกินจำนวนที่ซื้อ
เอากสารที่ได้จากไมโครซอฟท์เมื่อซื้อแบบ Open License

อีกอย่างหนึ่งที่เราควรรู้ไว้ก็คือ Windows Home ไม่ใช่วินโดวส์ที่เขาขายสำหรับผู้ใช้ตามบ้าน  แต่เป็นวินโดวส์ที่มีฟังก์ชั่นบ้าน ๆ (ฟังก์ชั่นน้อยกว่าเวอร์ชั่น Pro นิดเดียว)  นั่นหมายความว่า ถ้าเราซื้อ Windows 10 Home ไม่ว่าจะแบบไหน  เราสามารถใช้ส่วนตัวหรือใช้เชิงธุรกิจได้ โดยไม่ผิดข้อตกลงในการใช้โปรแกรมแต่อย่างใด  เพียงแต่เวอร์ชั่น Home ไม่รองรับการ Join Domain แค่นั้นเอง ซึ่งเรา ๆ ท่าน ๆ และบริษัทขนาดกลาง ขนาดเล็ก ส่วนมากก็ไม่ได้ใช้แบบนั้นอยู่แล้ว (อ่านคำตอบจากไมโครซอฟท์ เมื่อถูกถามว่า Windows 10 Home ใช้เชิงธุระกิจได้หรือไม่ ที่นี่)

Windows 10 Home ตรง domain ใช้งานไม่ได้
Windows 10 Pro ตรง domain ใช้งานได้

เมื่อมีปัญหาสังสัย หาคำตอบได้ไม่ถูกใจ โทรไปถามไมโครซอฟท์ประเทศไทยได้ที่เบอร์ 02-263-6888 ขอให้โชคดีครับ