แม้ UPS จะสามารถสำรองไฟให้กับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไอทีต่าง ๆ ได้ แต่ไม่ใช่ทุกอย่างที่จะสามารถต่อกับ UPS ได้ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ต่อกับ UPS หนึ่งเครื่อง ต้องไม่เกินกำลังที่ UPS เครื่องนั้น ๆ จะรับได้
ช่องเสียบจ่ายไฟ ด้านหลัง UPS เปรียบเสมือปลั๊ก 3 ตา ที่เราสามารถนำอุปกรณ์ต่าง ๆ มาเสียบได้ โดยปกติช่องเสียบด้านหลัง UPS จะมี 2 ประเภทคือ
1. ช่องเสียบที่สำรองไฟ และป้องกันไฟกระชาก (Surge Protection and Battery Backup) ใช้สำหรับเสียบจ่ายไฟให้กับคอมพิวเตอร์, มอนิเตอร์, เราเตอร์, ไวเลส, ตู้สาขาโทรศัพท์
2. ช่องเสียบที่ไม่สำรองไฟ แต่ป้องกันไฟกระชาก ( Surge Protection only) ใช้สำหรับเสียบจ่ายไฟให้กับพริ้นเตอร์
หลายคนไม่สังเกตุให้ดี เอาสายไฟของคอมพิวเตอร์ไปเสียบช่อง Surge Protection ทำให้เวลาไฟดับ คอมพิวเตอร์ก็ดับด้วย ขณะเดียวกัน ถ้าเอาสายไฟของพริ้นเตอร์ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเลเซอร์พริ้นเตอร์) ไปเสียบช่อง Battery Backup ทำให้เวลาสั่งพิมพ์ UPS จะร้องหรือบางทีอาจไหม้ได้ เพราะใช้กำลังไฟเกินกว่าที่ UPS จะรับไหว